thailandไทย

ลำโพงพกพารุ่นล่าสุด ระบบ Bluetooth 4.2 พลังเสียง 360 o จากBose

 

ต้องยอมรับว่า Bose นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากกับการออกจำหน่ายลำโพงแบบพกพา ภายใต้ชื่อ SoundLink® ซึ่งได้รับการผลิตรุ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 4 รุ่นด้วยกัน นับจาก Bose SoundLink®, Bose SoundLink®  II, Bose SoundLink®  III และ Bose SoundLink®  Mini ด้วย Design Concept ที่ออกแบบแนว Retro ต้องการสื่อย้อนยุคไปในสมัยเก่าก่อน

ทว่าล่าสุด Bose ได้ทำการออกจำหน่าย SoundLink® Revolve™ และ Revolve+ ที่นับได้ว่ามีความโดดเด่นยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่มาจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่ฉีกรูปแบบจากตัวเครื่องเรียบง่ายแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าโค้งมนตามขอบ มาเป็นรูปทรงโฉบเฉี่ยวทันสมัย ให้ความรู้สึกอันแตกต่างดูเหมือนกระติกน้ำเห็นแล้วเท่อย่าบอกใครเลย โดยได้ซ่อนระบบการทำงานล้ำยุคไว้ภายใน ส่งผลให้ SoundLink® Revolve™ และ Revolve+ เป็นลำโพงพกพาที่สามารถให้พลังเสียงได้รอบตัว ไม่ว่าจะฟังเพลงทางทิศทางไหน คุณภาพเสียงก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ที่สำคัญ Bose ได้เพิ่มจุดเด่นเป็นครั้งแรกสุดของซีรีส์ SoundLink® ไว้ให้กับทั้ง SoundLink® Revolve™ และ Revolve+ ด้วยประสิทธิภาพในการป้องกันการกระเด็นของน้ำได้อย่างที่หลายคนรอคอยมานาน ทั้งยังมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้น เพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกและคล่องตัวในการใช้งาน รวมถึงการออกแบบตัวกำเนิดเสียงที่ทำให้การรับฟังเพลงสามารถฟังได้ทุกทิศทาง ไม่คุณจะฟังจากทิศทางไหนของลำโพง ตัดปัญหาการนั่งล้อมวงฟังได้อย่างสิ้นเชิง

ด้วยตัวลำโพงภายใน ที่ใช้ตัวขับเสียงพิเศษจำนวน  1 ตัว ติดตั้งในลักษณะหันหน้าลงด้านล่าง เพื่อให้ในขณะทำงานตัวลำโพงจะปล่อยคลื่นเสียงไปยัง Passive Radiator อีกถึง 2 ตัว ทำหน้าที่ช่วยเสริมย่านเสียงในช่วงความถี่ต่ำอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ได้ยินเสียงแบบเดียวกันทุกทิศทางไม่ว่าจะฟังเพลงจากทิศทางไหนก็ตามที คุณภาพเสียงยังคงเดิม

ในส่วนของตัวเครื่องภายนอกนั้น สร้างขึ้นอย่างประณีตเรียบร้อย ด้วยการใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมทั้งชิ้น ไร้ซึ่งรอยต่อ ช่วยป้องกันการกระเด็นของน้ำหรือน้ำที่หกใส่ (แต่ไม่สามารถนำลงไปแช่หรือเล่นในสระน้ำนะครับ) บริเวณฐานของลำโพงนั้นเลือกใช้เป็นวัสดุยาง สามารถรองรับแรงกระแทกเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างสบาย จุดแตกต่างกันระหว่าง Revolve และ Revolve+ นั้นคือ ขนาดของ Revolve+ ที่ใหญ่กว่า Revolve รวมถึงหูหิ้วที่เพิ่มขึ้นนั้นเองครับ

ทางด้านระบบการเชื่อมต่อนั้น ทั้ง Revolve และ Revolve+ จะรองรับได้กับ Bluetooth 4.2 ล่าสุด ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ระบบ NFC เพื่อใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบ AUX 3.5 mm. สำหรับให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค ฯลฯ รวมถึงช่องเสียบ Micro USB สำหรับใช้ทำการชาร์จไฟ ซึ่งการชาร์จไฟแต่ละครั้ง (เต็มที่ประมาณ 3.5 ชั่วโมง) จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 16 ชั่วโมง สำหรับ Revolve+ และ 12 ชั่วโมง สำหรับ Revolve

 

ขอขอบคุณ

เนื้อหาโดย : บริษัท อัศวโสภณ จำกัด

ที่มา : นิตยสาร What Hi-Fi

ข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ